ราศีมังกร เชิญพบกับ โกเมน(Garnet)

โกเมน (garnet) ซึ่งเป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดสำหรับผู้ที่เกิดเดือนมกราคม หรือ ราศีมังกร

โกเมน เป็นพลอยในตระกูล การ์เน็ต มีค่าความแข็งอยู่ที่ 6.5-7.5 โมห์ คำว่า "การ์เนต" มาจากภาษาละติน คือ "granatus" แปลว่า คล้ายเมล็ดพันธุ์พืช (grain) โกเมนมีหลายสี แดง แดงอมดำ(ไพโรบ) สีเหลือง (โทแพโซไลต์), สีส้มหรือน้ำตาลถึงแดง(สเปซาไทท์),สีแดงอมม่วง(โรโดไลต์), สีน้ำตาล(เฮสโซไนต์),สีเขียว(ซาวอไรต์),สีดำ (เมลาไนต์)

โกเมน ถือเป็นอัญมณีที่นำมาซึ่งแรงบันดาลใจและพลังแห่งชีวิต ในสมัยโบราณเชื่อว่าจะบันดาลให้เกิดความจงรักภักดี ความเสียสละ และความจริงใจ เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคโลหิตตก แผลพุพอง และลดความโกรธได้ ใครก็ตามที่สวมใส่โกเมนที่แกะสลักลายราชสีห์ จะได้รับการปกป้องคุ้มภัยตลอดการเดินทาง

โกเมน ปกติสามารถเจียระไนได้ตั้งแต่ 1-15 มิลลิเมตร การคัดเลือกโกเมนคุณภาพดีจะต้องเลือกที่สีเข้มสด เจียระไ
นได้สัดส่วน มีประกายแสง และมองไม่เห็นตำหนิภายในได้ด้วยตาเปล่า

อความารีน(Aquamarine) อัญมณีสีฟ้า สำหรับชาวราศีมีน

อความารีน (Aquamarine)

อความารีน (Aquamarine) มีลักษณะสีฟ้าใสเหมือนน้ำทะเล เรียกว่า Brazillian Aquamarine เป็นหินในตระกูลเบอริล (Beryl) ตระกูลเดียวกับมรกต มีความแข็งเท่ากับ 7.5 โมห์ คำว่า "อความารีน" มาจากภาษาละติน "aqua marina" ซึ่งแปลว่าน้ำทะเล สีของอความารีนมีหลายเฉดสี ตั้งแต่ฟ้าอ่อน ฟ้าพาสเทล ฟ้าอมเขียวจนถึงฟ้าเข้ม ซึ่งอความารีนที่หายากและมีราคาแพงคือสีฟ้าเข้ม

อความารีนเป็นหินประจําเดือนเกิดของชาวราศีมีน และเป็นหินที่ใช้ฉลองการครบรอบแต่งงานปีที่16 และปีที่19 อีกด้วย มีความเชื่อกันว่าอความารีนเป็นอัญมณีที่จะนำความรักและเพื่อนใหม่มาสู่ผู้สวมใส่ สมัยโบราณ เชื่อว่า อความารีนจะนำความกล้าหาญมาสู่ผู้สวมใส่ ชาวอินเดียสวมใส่อความารีนเป็นเครื่องราง ขณะที่ชาวอียิปต์นำมาแกะสลักเพื่อใช้เป็นสิ่งบูชา ในยุคกลางเชื่อว่า อความารีนจะทำให้คู่รักและคู่สมรสใหม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

ความเชื่ออื่นๆเกี่ยวกับอความารีน โดยทั่วไปจะมีความหมายถึงความอ่อนวัย ความเป็นหนุ่มสาว และความหวังและเป็นสัญญลักษณ์ของความสุข และมีความหนุ่มเป็นสาวที่เป็นอมตะ ( Aquamarine symbol of Happiness and Everlasting Youth.)ช่วยบําบัดร่างกาย จิตใจ ลดความโกรธ จิตใจสงบ เพิ่มพูนความฉลาด ทําให้การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นดีขึ้น ลดความกลัว ปรับปรุงความเชื่อมั่นในตัวเองและกล้ายืนหยัดในสถานภาพที่เป็นอยู่อย่างไม่หวั่นไหว อความารีนช่วยลดอาการเครียด ทําให้จิตใจสงบ สติปัญญาเฉียบแหลม มีจิตใจละเอียดอ่อน มีความคิดสร้างสรรค์ กล้ารับผิดชอบในการกระทําของตนเอง

อความารีนคุณภาพดีจะต้องมีเนื้อสีฟ้าเข้ม ดูใสสะอาดปราศจากตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และหากมีน้ำหนักเกินก

ว่า 10 กะรัตก็จะยิ่งหายากและราคาสูงมาก แต่คุณภาพโดยทั่วไปของ อความารีนมักจะเห็นตำหนิภายในได้ แต่ต้องไม่เด่นชัด

การดูแลรักษาอความารีน

ถึงแม้อความารีนจะมีความแข็งแรงและคงทน แต่เวลาสวมใส่ก็ควรต้องระมัดระวังการขูดขีดของของแข็งที่อาจทําให้เป็นรอยเก็บให้ห่างจากแสงสว่าง เพราะแสงแดดจ้ามากๆอาจจะทําให้ซีดได้ และระมัดระวัง การอยู่ในที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วการล้างควร ล้างด้วยนํ้าสบู่อ่อนๆและใช้แปรงอ่อนๆขัดเบาๆ ล้างด้วยนํ้าอุ่นแล้วปล่อยให้แห้ง

ตามมาติดๆด้วย เพชร(Diamond) สำหรับชาวราศีเมษ

เพชร (Daimond)

ความเชื่อ ผู้ใดมีเพชร ไว้ครอบครองจะทำให้ร่ำรวย มีอำนาจ เป็นที่เกรงขาม ชีวิตรุ่งเรือง และชนะศัตรูทุกมวล

เพชรมีคุณสมบัติของความวาวและประกาย (Luster and Brilliancy) เรียกว่า “ไฟ” ถ้ามีความวาวและประกายสูงก็จะเรียกได้ว่ามีไฟดี หรือเล่นไฟเป็น

ประกาย และคุณสมบัติของความโปร่งใส (Degree of Transparency) ที่ในภาษาพูดเรียกกันว่า “น้ำ” เพชรที่ได้รับการเจียระไนอย่างได้สัดส่วนจะมีความสามารถในการรวมแสงกลับมาสู่ผู้มอง ทำให้มองเห็นเพชรส่องประกายสวยงามเพชรมีสีตั้งแต่ขาวบริสุทธิ์ จนถึงเหลืองอมเขียว ราคาของเพชรก็จะขึ้นอยู่กับสีของเพชรเช่นกัน สิ่งที่บ่งบอกคุณค่าแห่งเพชร คือน้ำหนัก มีหน่วยเรียกเป็นกะรัต (Carat) สี ความบริสุทธิ์ และการเจียระไน ที่เรียกว่า 4C’s หรือคุณค่าแห่งเพชร 4 ประการ

น้ำหนัก (Carat) เพชร 1 กะรัตมีค่าเท่ากับ 0.2 กรัม 1 กะรัตมีค่าเท่ากับ 100 สตางค์ เพชร 0.50 กะรัต หมายถึงเพชร 50 สตางค์ น้ำหนักของเพชรจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกคุณ ค่าของเพชร ยิ่งเพชรมีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักมาก็จะยิ่งมีราคาสูงมากตามไปด้วย

สี (Colour) เพชรที่มีสีขาวบริสุทธิ์ หายากและราคาแพง มาตรฐานการแบ่งสีของเพชรเริ่มจาก D จนถึง Z น้ำ D หมายถึงเพชรสีขาวบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ น้ำ E หมายถึง 99 เปอร์เซ็นต์ น้ำ F 98 เปอร์เซ็นต์ เพชรที่มีน้ำ D E F เท่านั้นจึงจะเรียกว่าเป็นเพชรไร้สี ตัวเลขจะลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเพชร น้ำ D ก็จะมีราคาสูงที่สุด เนื่องจากความหายาก โดยปกติเราจะมองเห็นเพชรเป็นสีขาวเหมือนกันหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้ามองให้ละเอียดจะเห็นว่าเพชรมีโทนสีเหลืองหรือน้ำตาล เพชรที่มีน้ำ 94(J) ลงมาจะเริ่มมีโทนสีเป็นสีเหลือง ซึ่งราคาของเพชรก็จะถูกลงมาตามลำดับ

ความบริสุทธิ์ ( Clarity) เพชรโดยปกติแล้วจะมีร่องรอยและตำหนิโดยธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ

ที่มาเป็นส่วนประกอบ ขนาดและจำนวนตำหนิของเพชรจะเป็นตัวกำหนดความบริสุทธิ์ของเพชร คือการมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ การใช้กล้องที่มีกำลังขยายสิบเท่า เป็นมาตรฐานในการดูความบริสุทธิ์ของเพชร

การดูแลรักษา สำหรับการดูแลรักษาเพชรนั้นทำได้ง่าย เพียงแค่ล้างด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ แล้วเช็ดให้แห้ง ภายหลังการใส่แล้วทุกครั้ง ไม่ควรเก็บเพชรไว้กับอัญมณีอื่นๆ และกับเพชรด้วยกันเอง เนื่องจากเพชรจะทำให้อัญมณีชนิดอื่นๆเป็นรอย และเพชรเมื่อขูดขีดกันเองก็จะทำให้เกิดเป็นรอยได้เช่นเดียวกัน

เช้าแล้ววว ฮ๊าาฟฟฟ^^

มาเริ่มกันด้วย มรกต(Emerald) สีเขียวสดใส สำหรับคนเกิดเดือน พฤษภาคมกันนะคับ

มรกต เป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูง และได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าอัญมณีสีเขียวทั้งหลาย กล่าวได้ว่า "มรกต" เป็นราชาแห่งอัญมณีสีเขียว และถือว่าเป็นอัญมณีที่เป็นความปรารถนาของผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีทุกคน มรกตเป็นอัญมณีแถวหน้าเช่นเดียวกับ เพชร ไพลิน ทับทิม บุษราคัม

คำว่า "Emerald" มาจากภาษากรีกว่า Smaragdos แปลว่า หินสีเขียว สีเขียว คือ สีที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สีแห่งความอุดมสมบูรณ์จึงเชื่อกันว่ามรกตนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ชาวเปรูใน สมัยก่อนนับถือมรกตเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีอำนาจปกป้อง คุ้มครองผู้สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้ ด้วยความศรัทธาของ ชาวเปรู พวกเขาได้สร้างศาลเจ้าที่เก็บมรกตจำนวนมากเพื่อสักการะ บูชาอัญมณีชนิดนี้

คุณภาพของมรกตจะวัดจากความบริสุทธิ์ของสีเป็นสำคัญ โดยจะต้องมีสีเขียวสดและสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด มรกตสีเขียวอมเหลือง สีเขียวอ่อนจัดว่าเป็นมรกตที่มีคุณภาพรองลงมาจากเขียวเข้ม มรกตสีเขียวซีดจัดว่ามีคุณภาพต่ำที่สุด

โดยธรรมชาติของมรกต จะสามารถมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า เพียงแต่ในการเลือกซื้อมรกตก็ควรจะเลือกเม็ดที่

มีตำหนิน้อยที่สุดเช่นเดียวกับพลอยชนิดอื่นๆ และตำหนิที่เห็นก็ไม่ควรมีสีที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบ

กับสีของมรกต เช่น ตำหนิสีดำ ตำหนิสีขาวขุ่น และมรกตไม่ควรมีรอยแตกร้าวหรือกระเทาะบริเวณด้านหน้า โดยธรรมชาติมรกตมักมีตำหนิเป็นรอยแตกร้าวเสมอ แต่ในการเลือกซื้

อควรเลือกที่มีรอยแตกร้าวให้น้อยที่สุดและรอยแตกร้าวนั้นควรอยู่ภายในเนื้อพลอยไม่ควรเป็นรอยแตกร้าวขึ้นมาบริเวณหน้าพลอย

การดูแลรักษา

มรกตเป็นอัญมณีที่มีตำหนิภายในค่อนข้างมาก ทำให้ต้องระมัดระวังในการสวมใส่ ต้องไม่ให้กระแทกกับของแข็งโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้มรกตแตกได้ ควรเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาด น้ำหอมและสเปรย์แต่งผมขณะสวมใส่มรกต ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นและแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม แต้มน้ำมันที่ผิวของมรกตทุกๆสองสามปี เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าไปสมานร่องรอย และช่วยให้มรกตมีสีเขียวสวยยิ่งขึ้น

Are you ready? พร้อมหรือยัง

ผ่านไปแล้วกับแร่ทั้ง 6 ชนิด เลือกได้แล้วหรือยังว่า ชนิดไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ถ้ายังอดใจรอพรุ่งนี้เพื่อพบกับอีก 6 ชนิดที่เหลือ จากนั้นจะได้พบกับสินค้าที่น่าตื่นตาใจ เด๋วผมจะรีบไปทำรูปเตรียมอัพเดทไว้เลย อย่าลืมเข้ามาชมกันเยอะๆนะครับ :)

สำหรับราศี เมถุน เชิญทางนี้ครับ ^^

เจ้าสามสี (Alexandrite)

อเล็กซานไดรท์ หรือ คนไทยเรียกว่า เจ้าสามสี หรือจะเรียกว่า แซฟไฟร์เจ้าสามสี (Alexandrite - like Sapphire)อัญมณ๊ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น อันเนื่องมาจากความมหัศจรรย์ในการเปลี่ยนสีได้ตามแหล่งกำเนิดของแสง หากได้รับแสงจากหลอดไฟเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซ้นท์แสงสีขาวอมฟ้า ทำให้เห็นอัญมณีเจ้าสามสีเป็นสีเขียว หรือเป็นสีเขียวอมน้ำตาล อมน้ำเงิน คล้ายๆมรกต เมื่อกระทบกับแสงธรรมชาติที่ไม่ส
ว่างมากนัก อาทิแสงแดดยามรุ่งอรุณแต่หากได้รับแสงจากหลอดไฟมีไส้ หรือแสงสีส้ม จะเห็นอัญมณีเจ้าสามสีเป็นสีแดง ดังมีประโยคภาษาอังกฤษที่อธิบายลักษณะของเจ้าสามสีว่า "Emerald by Day, Ruby by Night"

อเล็กซานไดรต์ เป็น พลอยตระกูลเดียวกับคริสโซเบอริล หรือไพฑูรย์ (พลอยตาแมว) ค่าความแข็งอยู่ที่ 8.5 โมห์ ตั้งตามชื่อของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่สอง เพราะถูกค้นพบในสมัยนั้น ค้นพบในปีคริสตศักราชที่ 1830 ที่เทือกเขาอูราลของรัสเซีย ผู้คนชาวรัสเซียให้ความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสีของเจ้าสามสีเป็นสีเขียวและสีแดงซึ่งสอดคล้องกับสีของราชวงศ์รัสเซีย

เจ้าสามสีที่มีคุณภาพดี จะมีมูลค่าสูง โดยจะต้องมีการเปลี่ยนสีอย่างเด่นชัดเมื่อต้องแสงไฟ คือมีสีสดเข้มเป็นสีเขียว

มรกต และ เป็นสีแดงทับทิม มีเนื้อใสสะอาด มองไม่เห็นตำหนิทั้งภายในไและภายนอกได้ด้วยตาเปล่า ตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยแว่นขยาย ต้องเป็นสีที่กลมกลืนกับสีของพลอย มีรูปทรงที่ได้สัดส่วน รวมทั้งต้องมีประกายแสงที่ดีคือมากกว่า 50% ขึ้นไป

การดูแลรักษา

ควรทำความสะอาดพลอยด้วยน้ำอุ่นและผ้านุ่มๆ ระมัดระวังเรื่องการเสียดสี เพราะจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

ความเชื่อในด้านโชคลาง

เชื่อว่า “พลอยเจ้าสามสี” จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แก่ผู้ที่สวมใส่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (บ้านและที่ดิน) ช่วยกระตุ้นพลังแห่งชีวิต เพิ่มพลังทางด้านความคิดริเริ่ม ลดความก้าวร้าว ทำให้เกิดความเมตตา มีนิสัยอ่อนโยน ช่วยให้ผู้ที่สวมใส่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นพลังทางเพศให้แก่ผู้สวมใส่เป็นประจำอีกด้วย