ราศีมังกร เชิญพบกับ โกเมน(Garnet)

โกเมน (garnet) ซึ่งเป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดสำหรับผู้ที่เกิดเดือนมกราคม หรือ ราศีมังกร

โกเมน เป็นพลอยในตระกูล การ์เน็ต มีค่าความแข็งอยู่ที่ 6.5-7.5 โมห์ คำว่า "การ์เนต" มาจากภาษาละติน คือ "granatus" แปลว่า คล้ายเมล็ดพันธุ์พืช (grain) โกเมนมีหลายสี แดง แดงอมดำ(ไพโรบ) สีเหลือง (โทแพโซไลต์), สีส้มหรือน้ำตาลถึงแดง(สเปซาไทท์),สีแดงอมม่วง(โรโดไลต์), สีน้ำตาล(เฮสโซไนต์),สีเขียว(ซาวอไรต์),สีดำ (เมลาไนต์)

โกเมน ถือเป็นอัญมณีที่นำมาซึ่งแรงบันดาลใจและพลังแห่งชีวิต ในสมัยโบราณเชื่อว่าจะบันดาลให้เกิดความจงรักภักดี ความเสียสละ และความจริงใจ เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคโลหิตตก แผลพุพอง และลดความโกรธได้ ใครก็ตามที่สวมใส่โกเมนที่แกะสลักลายราชสีห์ จะได้รับการปกป้องคุ้มภัยตลอดการเดินทาง

โกเมน ปกติสามารถเจียระไนได้ตั้งแต่ 1-15 มิลลิเมตร การคัดเลือกโกเมนคุณภาพดีจะต้องเลือกที่สีเข้มสด เจียระไ
นได้สัดส่วน มีประกายแสง และมองไม่เห็นตำหนิภายในได้ด้วยตาเปล่า

อความารีน(Aquamarine) อัญมณีสีฟ้า สำหรับชาวราศีมีน

อความารีน (Aquamarine)

อความารีน (Aquamarine) มีลักษณะสีฟ้าใสเหมือนน้ำทะเล เรียกว่า Brazillian Aquamarine เป็นหินในตระกูลเบอริล (Beryl) ตระกูลเดียวกับมรกต มีความแข็งเท่ากับ 7.5 โมห์ คำว่า "อความารีน" มาจากภาษาละติน "aqua marina" ซึ่งแปลว่าน้ำทะเล สีของอความารีนมีหลายเฉดสี ตั้งแต่ฟ้าอ่อน ฟ้าพาสเทล ฟ้าอมเขียวจนถึงฟ้าเข้ม ซึ่งอความารีนที่หายากและมีราคาแพงคือสีฟ้าเข้ม

อความารีนเป็นหินประจําเดือนเกิดของชาวราศีมีน และเป็นหินที่ใช้ฉลองการครบรอบแต่งงานปีที่16 และปีที่19 อีกด้วย มีความเชื่อกันว่าอความารีนเป็นอัญมณีที่จะนำความรักและเพื่อนใหม่มาสู่ผู้สวมใส่ สมัยโบราณ เชื่อว่า อความารีนจะนำความกล้าหาญมาสู่ผู้สวมใส่ ชาวอินเดียสวมใส่อความารีนเป็นเครื่องราง ขณะที่ชาวอียิปต์นำมาแกะสลักเพื่อใช้เป็นสิ่งบูชา ในยุคกลางเชื่อว่า อความารีนจะทำให้คู่รักและคู่สมรสใหม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

ความเชื่ออื่นๆเกี่ยวกับอความารีน โดยทั่วไปจะมีความหมายถึงความอ่อนวัย ความเป็นหนุ่มสาว และความหวังและเป็นสัญญลักษณ์ของความสุข และมีความหนุ่มเป็นสาวที่เป็นอมตะ ( Aquamarine symbol of Happiness and Everlasting Youth.)ช่วยบําบัดร่างกาย จิตใจ ลดความโกรธ จิตใจสงบ เพิ่มพูนความฉลาด ทําให้การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นดีขึ้น ลดความกลัว ปรับปรุงความเชื่อมั่นในตัวเองและกล้ายืนหยัดในสถานภาพที่เป็นอยู่อย่างไม่หวั่นไหว อความารีนช่วยลดอาการเครียด ทําให้จิตใจสงบ สติปัญญาเฉียบแหลม มีจิตใจละเอียดอ่อน มีความคิดสร้างสรรค์ กล้ารับผิดชอบในการกระทําของตนเอง

อความารีนคุณภาพดีจะต้องมีเนื้อสีฟ้าเข้ม ดูใสสะอาดปราศจากตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และหากมีน้ำหนักเกินก

ว่า 10 กะรัตก็จะยิ่งหายากและราคาสูงมาก แต่คุณภาพโดยทั่วไปของ อความารีนมักจะเห็นตำหนิภายในได้ แต่ต้องไม่เด่นชัด

การดูแลรักษาอความารีน

ถึงแม้อความารีนจะมีความแข็งแรงและคงทน แต่เวลาสวมใส่ก็ควรต้องระมัดระวังการขูดขีดของของแข็งที่อาจทําให้เป็นรอยเก็บให้ห่างจากแสงสว่าง เพราะแสงแดดจ้ามากๆอาจจะทําให้ซีดได้ และระมัดระวัง การอยู่ในที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วการล้างควร ล้างด้วยนํ้าสบู่อ่อนๆและใช้แปรงอ่อนๆขัดเบาๆ ล้างด้วยนํ้าอุ่นแล้วปล่อยให้แห้ง

ตามมาติดๆด้วย เพชร(Diamond) สำหรับชาวราศีเมษ

เพชร (Daimond)

ความเชื่อ ผู้ใดมีเพชร ไว้ครอบครองจะทำให้ร่ำรวย มีอำนาจ เป็นที่เกรงขาม ชีวิตรุ่งเรือง และชนะศัตรูทุกมวล

เพชรมีคุณสมบัติของความวาวและประกาย (Luster and Brilliancy) เรียกว่า “ไฟ” ถ้ามีความวาวและประกายสูงก็จะเรียกได้ว่ามีไฟดี หรือเล่นไฟเป็น

ประกาย และคุณสมบัติของความโปร่งใส (Degree of Transparency) ที่ในภาษาพูดเรียกกันว่า “น้ำ” เพชรที่ได้รับการเจียระไนอย่างได้สัดส่วนจะมีความสามารถในการรวมแสงกลับมาสู่ผู้มอง ทำให้มองเห็นเพชรส่องประกายสวยงามเพชรมีสีตั้งแต่ขาวบริสุทธิ์ จนถึงเหลืองอมเขียว ราคาของเพชรก็จะขึ้นอยู่กับสีของเพชรเช่นกัน สิ่งที่บ่งบอกคุณค่าแห่งเพชร คือน้ำหนัก มีหน่วยเรียกเป็นกะรัต (Carat) สี ความบริสุทธิ์ และการเจียระไน ที่เรียกว่า 4C’s หรือคุณค่าแห่งเพชร 4 ประการ

น้ำหนัก (Carat) เพชร 1 กะรัตมีค่าเท่ากับ 0.2 กรัม 1 กะรัตมีค่าเท่ากับ 100 สตางค์ เพชร 0.50 กะรัต หมายถึงเพชร 50 สตางค์ น้ำหนักของเพชรจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกคุณ ค่าของเพชร ยิ่งเพชรมีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักมาก็จะยิ่งมีราคาสูงมากตามไปด้วย

สี (Colour) เพชรที่มีสีขาวบริสุทธิ์ หายากและราคาแพง มาตรฐานการแบ่งสีของเพชรเริ่มจาก D จนถึง Z น้ำ D หมายถึงเพชรสีขาวบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ น้ำ E หมายถึง 99 เปอร์เซ็นต์ น้ำ F 98 เปอร์เซ็นต์ เพชรที่มีน้ำ D E F เท่านั้นจึงจะเรียกว่าเป็นเพชรไร้สี ตัวเลขจะลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเพชร น้ำ D ก็จะมีราคาสูงที่สุด เนื่องจากความหายาก โดยปกติเราจะมองเห็นเพชรเป็นสีขาวเหมือนกันหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้ามองให้ละเอียดจะเห็นว่าเพชรมีโทนสีเหลืองหรือน้ำตาล เพชรที่มีน้ำ 94(J) ลงมาจะเริ่มมีโทนสีเป็นสีเหลือง ซึ่งราคาของเพชรก็จะถูกลงมาตามลำดับ

ความบริสุทธิ์ ( Clarity) เพชรโดยปกติแล้วจะมีร่องรอยและตำหนิโดยธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ

ที่มาเป็นส่วนประกอบ ขนาดและจำนวนตำหนิของเพชรจะเป็นตัวกำหนดความบริสุทธิ์ของเพชร คือการมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ การใช้กล้องที่มีกำลังขยายสิบเท่า เป็นมาตรฐานในการดูความบริสุทธิ์ของเพชร

การดูแลรักษา สำหรับการดูแลรักษาเพชรนั้นทำได้ง่าย เพียงแค่ล้างด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ แล้วเช็ดให้แห้ง ภายหลังการใส่แล้วทุกครั้ง ไม่ควรเก็บเพชรไว้กับอัญมณีอื่นๆ และกับเพชรด้วยกันเอง เนื่องจากเพชรจะทำให้อัญมณีชนิดอื่นๆเป็นรอย และเพชรเมื่อขูดขีดกันเองก็จะทำให้เกิดเป็นรอยได้เช่นเดียวกัน

เช้าแล้ววว ฮ๊าาฟฟฟ^^

มาเริ่มกันด้วย มรกต(Emerald) สีเขียวสดใส สำหรับคนเกิดเดือน พฤษภาคมกันนะคับ

มรกต เป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูง และได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าอัญมณีสีเขียวทั้งหลาย กล่าวได้ว่า "มรกต" เป็นราชาแห่งอัญมณีสีเขียว และถือว่าเป็นอัญมณีที่เป็นความปรารถนาของผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีทุกคน มรกตเป็นอัญมณีแถวหน้าเช่นเดียวกับ เพชร ไพลิน ทับทิม บุษราคัม

คำว่า "Emerald" มาจากภาษากรีกว่า Smaragdos แปลว่า หินสีเขียว สีเขียว คือ สีที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สีแห่งความอุดมสมบูรณ์จึงเชื่อกันว่ามรกตนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ชาวเปรูใน สมัยก่อนนับถือมรกตเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีอำนาจปกป้อง คุ้มครองผู้สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้ ด้วยความศรัทธาของ ชาวเปรู พวกเขาได้สร้างศาลเจ้าที่เก็บมรกตจำนวนมากเพื่อสักการะ บูชาอัญมณีชนิดนี้

คุณภาพของมรกตจะวัดจากความบริสุทธิ์ของสีเป็นสำคัญ โดยจะต้องมีสีเขียวสดและสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด มรกตสีเขียวอมเหลือง สีเขียวอ่อนจัดว่าเป็นมรกตที่มีคุณภาพรองลงมาจากเขียวเข้ม มรกตสีเขียวซีดจัดว่ามีคุณภาพต่ำที่สุด

โดยธรรมชาติของมรกต จะสามารถมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า เพียงแต่ในการเลือกซื้อมรกตก็ควรจะเลือกเม็ดที่

มีตำหนิน้อยที่สุดเช่นเดียวกับพลอยชนิดอื่นๆ และตำหนิที่เห็นก็ไม่ควรมีสีที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบ

กับสีของมรกต เช่น ตำหนิสีดำ ตำหนิสีขาวขุ่น และมรกตไม่ควรมีรอยแตกร้าวหรือกระเทาะบริเวณด้านหน้า โดยธรรมชาติมรกตมักมีตำหนิเป็นรอยแตกร้าวเสมอ แต่ในการเลือกซื้

อควรเลือกที่มีรอยแตกร้าวให้น้อยที่สุดและรอยแตกร้าวนั้นควรอยู่ภายในเนื้อพลอยไม่ควรเป็นรอยแตกร้าวขึ้นมาบริเวณหน้าพลอย

การดูแลรักษา

มรกตเป็นอัญมณีที่มีตำหนิภายในค่อนข้างมาก ทำให้ต้องระมัดระวังในการสวมใส่ ต้องไม่ให้กระแทกกับของแข็งโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้มรกตแตกได้ ควรเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาด น้ำหอมและสเปรย์แต่งผมขณะสวมใส่มรกต ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นและแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม แต้มน้ำมันที่ผิวของมรกตทุกๆสองสามปี เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าไปสมานร่องรอย และช่วยให้มรกตมีสีเขียวสวยยิ่งขึ้น

Are you ready? พร้อมหรือยัง

ผ่านไปแล้วกับแร่ทั้ง 6 ชนิด เลือกได้แล้วหรือยังว่า ชนิดไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ถ้ายังอดใจรอพรุ่งนี้เพื่อพบกับอีก 6 ชนิดที่เหลือ จากนั้นจะได้พบกับสินค้าที่น่าตื่นตาใจ เด๋วผมจะรีบไปทำรูปเตรียมอัพเดทไว้เลย อย่าลืมเข้ามาชมกันเยอะๆนะครับ :)

สำหรับราศี เมถุน เชิญทางนี้ครับ ^^

เจ้าสามสี (Alexandrite)

อเล็กซานไดรท์ หรือ คนไทยเรียกว่า เจ้าสามสี หรือจะเรียกว่า แซฟไฟร์เจ้าสามสี (Alexandrite - like Sapphire)อัญมณ๊ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น อันเนื่องมาจากความมหัศจรรย์ในการเปลี่ยนสีได้ตามแหล่งกำเนิดของแสง หากได้รับแสงจากหลอดไฟเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซ้นท์แสงสีขาวอมฟ้า ทำให้เห็นอัญมณีเจ้าสามสีเป็นสีเขียว หรือเป็นสีเขียวอมน้ำตาล อมน้ำเงิน คล้ายๆมรกต เมื่อกระทบกับแสงธรรมชาติที่ไม่ส
ว่างมากนัก อาทิแสงแดดยามรุ่งอรุณแต่หากได้รับแสงจากหลอดไฟมีไส้ หรือแสงสีส้ม จะเห็นอัญมณีเจ้าสามสีเป็นสีแดง ดังมีประโยคภาษาอังกฤษที่อธิบายลักษณะของเจ้าสามสีว่า "Emerald by Day, Ruby by Night"

อเล็กซานไดรต์ เป็น พลอยตระกูลเดียวกับคริสโซเบอริล หรือไพฑูรย์ (พลอยตาแมว) ค่าความแข็งอยู่ที่ 8.5 โมห์ ตั้งตามชื่อของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่สอง เพราะถูกค้นพบในสมัยนั้น ค้นพบในปีคริสตศักราชที่ 1830 ที่เทือกเขาอูราลของรัสเซีย ผู้คนชาวรัสเซียให้ความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสีของเจ้าสามสีเป็นสีเขียวและสีแดงซึ่งสอดคล้องกับสีของราชวงศ์รัสเซีย

เจ้าสามสีที่มีคุณภาพดี จะมีมูลค่าสูง โดยจะต้องมีการเปลี่ยนสีอย่างเด่นชัดเมื่อต้องแสงไฟ คือมีสีสดเข้มเป็นสีเขียว

มรกต และ เป็นสีแดงทับทิม มีเนื้อใสสะอาด มองไม่เห็นตำหนิทั้งภายในไและภายนอกได้ด้วยตาเปล่า ตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยแว่นขยาย ต้องเป็นสีที่กลมกลืนกับสีของพลอย มีรูปทรงที่ได้สัดส่วน รวมทั้งต้องมีประกายแสงที่ดีคือมากกว่า 50% ขึ้นไป

การดูแลรักษา

ควรทำความสะอาดพลอยด้วยน้ำอุ่นและผ้านุ่มๆ ระมัดระวังเรื่องการเสียดสี เพราะจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

ความเชื่อในด้านโชคลาง

เชื่อว่า “พลอยเจ้าสามสี” จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แก่ผู้ที่สวมใส่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (บ้านและที่ดิน) ช่วยกระตุ้นพลังแห่งชีวิต เพิ่มพลังทางด้านความคิดริเริ่ม ลดความก้าวร้าว ทำให้เกิดความเมตตา มีนิสัยอ่อนโยน ช่วยให้ผู้ที่สวมใส่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นพลังทางเพศให้แก่ผู้สวมใส่เป็นประจำอีกด้วย

ทับทิม (Ruby) สำหรับคนราศี กรกฏาคม ^^

ทับทิม ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า ruby และคำละตินว่า ruber ซึ่งแปลว่า "แดง" ภาษาสันสกฤตโบราณตรงกับคำว่า "ratnaraj" มีความหมายว่า เจ้าแห่งอัญมณีทั้งปวง (King of Gems)
ทับทิมเป็นแร่ในตระกูลคอรันดัม ถ้าเป็นสีแดง ชมพู จะเรียกว่าทับทิม หากเป็นสีอื่นจะเรียกว่า แซฟไฟร์ เช่นสีน้ำเงิน เรียกว่า ไพลิน (Blue Sapphire) สีเหลืองเรียกว่า บุษราคัม (Yellow Sapphire) สีเขียวเรียกว่า เขียวส่อง (Green Sapphire) สีอื่นๆนอกจากนี้เรียกว่า แฟนซีแซฟไฟร์ มีค่าความแข็งเท่ากับ 9 โมห์สเกล รองจากเพชร
ทับทิม โดยธรรมชาตินั้นมักมีเนื้อขุ่น ตำหนิมากบางชิ้นทึบแสงดูไม่สวยงามดังนั้นทับทิมในท้องตลาดส่วนใหญ่ผ่านการเพิ่มคุณภาพด้วยความร้อนมาแทบทั้งสิ้น ซึ่งจะช่วยทำให้สีของพลอยทับทิมงดงามมากยิ่งขึ้น รวมท้ังช่วยละปริมาณตำหนิภายในที่เด่นชัดลงได้

การเลือกซื้อพลอยทับทิม

ควรเลือกเม็ดที่มีสีสดเข้ม (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจขอผู้สวมใส่เช่นกัน) ไม่มืดดำ สีสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด เห็นตำหนิภายในได้แต่ต้องไม่มาก หรือไม่เป็นตำหนิที่มีสีแตกต่างจากสีของพลอยมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นตำหนิที่เป็นฝ้าขาว สีเหลือบ ผลึกขาวขุ่นและผลึกสีดำ ไม่มีตำหนิที่ผิวของพลอย โดยเฉพาะที่ด้านหน้าพลอย มีการเจียระไนที่ได้รูปทรงเพื่อให้เกิดประกายแสงที่สวยงาม

ในการเลือกซื้อพลอยทับทิม

จึงควรสอบถามผู้ขายว่าเป็นทับทิมจากแหล่งใด เผาหรือไม่เผา เผาแบบใดเป็นต้น หากทางร้านมีใบรับรองก็จะเป็นการการันตีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อ
ทับทิมเป็นพลอยประจำเดือนเกิดราศีกรกฎ หรือผู้ที่เกิดเดือนกรกฎาคม เชื่อว่าการสวมใส่ทับทิมจะนำมาซึ่งสุขภาพแข็งแรง ความมั่นคง และสติปัญญา

พลอยทับทิม กับความเชื่อในด้านความรัก ถือกันว่าทับทิม คือ อัญมณีที่ทำให้สุขสมหวังในความรัก สีแดงของทับทิมเป็นสีแห่งความรักและอารมณ์ ทับทิมจึงมีพลังช่วยกระตุ้นให้กล้าแสดงออกและกล้าแสดงความรู้สึกรักมากขึ้น ทำให้สมหวังในเรื่องรัก และยังช่วยผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ด้วย ทับทิมยังถูกนำมาเป็นของขวัญในวาระครบรอบการแต่งงานปีที่ 15 และปีที่ 40

การดูแลรักษา

ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ และแปรงขนนุ่ม ขัดเบาๆ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทับทิมเป็นพลอยที่มีความแข็งมากก็จริง แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรได้รับการกระแทกจากของแข็ง หรือพลอยประเภทเดียวกัน

Peridot สำหรับเดือนกันยายน :)

Peridot เพอริดอท หรือ เพอริโด

เพอริดอท อัญมณีสีเขียว ประจำเดือนเกิดสิงหาคม

เพอริดอทและพลอยเขียวส่อง (Green Sapphire) นั้นดูคล้ายกันมาก แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นพลอยคนละชนิด พลอยเขียวส่องจะมีสีเขียวเข้มหรือเขียวอมน้ำเงิน และสีของเนื้อพลอยจะไม่สม่ำเสมอ มีเส้นคาดขวางเนื้อพลอย และเป็นพลอยในตระกูลเนื้อแข็งซึ่งมีค่าความแข็งเท่ากับ 9 โมห์ ในขณะที่เพอริดอทจะมีสีเขียวอมเหลือง สีของพลอยจะสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด

การเลือกซื้อ

ให้คำนึงถึงคุณภาพของสีเป็นอันดับแรก ต้องเป็นสีเขียวสด รองลงมาคือเขียวอมเหลือง เขียวอ่อน ความสะอาดคือสิ่งที่ควรคำนึงเป็นอันดับสอง โดยธรรมชาติเพอริดอทจะมีเนื้อที่ใสสะอาดมองไม่เห็นตำหนิภายในด้วยตาเปล่า ไม่ควรซื้อหากพบตำหนิภายใน แต่ในเนื้อของเพอริดอทนั้นมักมีตำหนิโดยธรรมชาติที่พิเศษไม่เหมือนใครนั่นคือตำหนิรูปใบบัว(Lily Pad) ซึ่งเป็นตำหนิที่มีความสวยงาม นอกจากนี้ในการเลือกซื้อควรพิจารณาให้ไม่มีรอยแตกบิ่นร้าวภายนอก และพิจารณารูปแบบการเจียระไน เพอริดอทมีการเจียระไนหลายรูปแบบ ทั้งสี่เหลี่ยม รูปไข่ รูปสามเหลี่ยม รูปหัวใจ ควรคัดเลือกเม็ดที่มีการเจียระไนได้สัดส่วน สวยงาม เพราะการเจียระไนที่ได้สัดส่วนจะทำให้อัญมณีมีประกายไฟที่สวยงาม เพอริดอทควรมีผิวที่เรียบวาว มีเหลี่ยมมุมที่คมชัดและประณีต

ความเชื่อเกี่ยวกับอัญมณีเพอริดอท

เพอริดอทเป็นอัญมณีที่สามารถคุ้มครองผู้สวมใส่ได้ นักรบในสมัยโบราณจึงมัมักพกอัญมณีชนิดนี้ติดตัวไว้ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่า เพอริดอทจะช่วยให้มิตรภาพระหว่างกันเป็นไปอย่างยั่งยืน เพราะมีพลังปลดปล่อยจิตใจให้หลุดพ้นจากความอิจฉาริษยา เพอริดอทมีพลังที่ทำให้จิตใจของผู้สวมใส่เข้มแข็ง กล้าหาญ และหากนำเพอริดอทไปประดับกับทองจะยิ่งเพิ่มพลังให้กับอัญมณีมากยิ่งขึ้น
ความเชื่อเกี่ยวกับความรัก เชื่อว่า อัญมณีเพอริดอทนำมาซื่งอารมณ์และจิตใจที่มั่นคง ดังนั้นคู่แต่งงานจึงควรสวมใส่อัญมณีชนิดนี้เพื่อความรักที่มั่นคงและยืนยาว
ความเชื่อด้านการบำบัดรักษา เชื่อว่า อัญมณีเพอริดอทจะป้องกันและรักษาโรคภัยที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตและช่วยระบบทางเดินอาหาร ช่วยการทำงานของม้าม ถุงน้ำดี และตับ และรักษาโรคหอบหืดได้

การดูแลรักษา

เนื่องจากเพอริดอทเป็นอัญมณีที่มีความแข็งปานกลาง ดังนั้นจึงควรระมัดมะวังการขีดข่วนเพราะจะเกิดริ้วรอยได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการเก็บอัญมณีได้กับอัญมณีชนิดอื่นๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกระแทกอย่างแรกเพราะอาจแตกร้าวได้ การทำความสะอาด ควรทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงน้ำเค็ม สารเคมี น้ำหอม ระวังการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เก็บไว้ในภาชนะที่บุผ้านุ่ม

ข้อควรระวัง

หากฝังอัญมณีเพอริดอทบนตัวเรือนจีเวลลี่ที่แน่นมาก เพอริดอทจะไม่แตกในทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปแต่ไม่สามารถบอกได้ว่านานเท่าใด เพอริดอทจะแตกออกเป็นชิ้นเพราะแรงดันภายในที่ต่อต้านแรงบีบกดของตัวเรือน

ใครเกิดเดือน กันยายน อย่าพลาด Blue Sapphire :)

ไพลิน (Blue Sapphire) อัญมณีสีน้ำเงิน

สำหรับผู้ที่เกิดเดือนกันยายน หรือ ราศีกันย์ Blue Sapphire หรือ ไพลิน มาจากภาษาเปอร์เชีย "Saffir" หรือจากภาษากรีก "Sappheiros" แปลว่า สีน้ำเงิน หรือจากภาษาสันสกฤต "ศนิปฺริย" (ศนิ = พระเสาร์, ปฺริย = ผู้เป็นที่รัก) แปลว่าของมีค่าของเทพแซทเทิร์น (ในเทพปกรณัมโรมัน) อย่างไรก็ตาม ในภาษาสันสกฤตยังมีคำเรียกแซฟไฟร์สีน้ำเงินว่า "อินฺทฺรนีล" หมายถึง "สีน้ำเงินเหมือนพระอินทร์"

ในสมัยอดีตเชื่อกันว่า ไพลินเป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดิน สวรรค์ ผู้พิทักษ์ความบริสุทธิ์ ก่อให้เกิดความจริงใจและสัจจะต่อบรรดาผู้ครอบครอง และบ้างก็เชื่อว่า ไพลินเป็นอัญมณีสีน้ำเงินที่สามารถดับไฟและความเร่าร้อนได้ เพราะสีน้ำเงินที่ให้ความรู้สึกมั่นคงนั่นเอง

บางประเทศในทวีปยุโรปนิยมใช้พลอยไพลินเป็นแหวนหมั้น เพราะไพลินเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ลึกซึ้ง มั่นคง ยืนนาน นิรันดร์ และเช่นเดียวกับอัญมณีทรงคุณค่าชนิดอื่น ๆไพลินก็มีอำนาจช่วยปกป้องให้พ้นจากภยันตรายต่าง ๆ ด้วย ทางด้านการบำบัดรักษาไพลินช่วยบรรเทาโรคหรืออาการทางสมอง โรคที่เกี่ยวกับประสาทและไขสันหลังผิวหนังอักเสบได้ ไพลินถือเป็นพลอยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นิยมกันทั่วโลก

ไพลินที่มีคุณภาพดีต้องมีสีน้ำเงินสด สำสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด สีมีความเข้มมากแต่ต้องไม่เข้มจนดูมืดดำ และต้องมีการเจียระไนที่ดีที่จะทำให้เกิดการ

หักเหและการสะท้อนแสงภายในส่องเป็นประกายออกมา และที่สำคัญ คือต้องไม่มีตำหนิที่มีสีแตกต่างจากสีของไพลิน หรือเป็นตำหนิที่มองเห็นเด่นชัด
ไพลินคุณภาพต่ำจะมีเนื้อที่ดูขุ่นมัว ทึบตัน หรือสีไม่สม่ำเสมออย่างเห็นได้ชัด มีสีน้ำเงินเข้มจนดำ ไม่มีประกายหรือมีประกายก็น้อยมาก

การพิจารณาเลือกซื้อ

ไพลินที่มีคุณภาพสูง จะต้องมีสีน้ำเงินสดและนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ สีดูเนียนเรียบ สม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด สีที่เป็นที่นิยมจะเป็นไพลินสีน้ำเงินอมม่วง เนื้อของไพลินที่มีคุณภาพสูงจะต้องใสสะอาดมองไม่เห็นตำหนิภายในด้วยตาเปล่า และต้องไม่มีเนื้อขุ่นมัวจนทึบตัน

การดูแลรักษา

ถึงแม้ไพลินจะมีค่าความแข็งอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามก็ควรต้องระมัดระวังการกระแทกเพราะจะทำให้มีรอยบิ่นแตกได้ การทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและแปรงขนนุ่ม หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำเค็ม สารเคมี น้ำหอม และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เก็บรักษาไว้ในภาชนะบุผ้านุ่ม

เอาใจคนเกิดเดือน ตุลาคม ด้วยทัวร์มาลีน (Tourmaline) อัญมณีประจำเดือนตุลคม ^^

ทัวร์มาลีน(Tourmaline)

ทัวร์มาลีนเป็นอัญมณีที่มีหลายสี บางเม็ดมีสีเดียว บางเม็ดมีสองสี บางเม็ดมีสามสี สีที่เป็นที่นิยม คือ สีชมพู (pink tourmaline) หรือ รูเบลไลท์ และ สีเขียว (green tourmaline) คำว่า ทัวร์มาลีนมาจาก "ทุรมาลี" แปลว่า หินที่มีหลายสีปนกัน ทัวร์มาลีนเป็นอัญมณีที่มีค่าความแข็งอยู่ที 7-7.5

การพิจารณาเลือกซื้อ

การเลือกทัวร์มาลี ถ้าเป็นสีเขียวก็จะต้องเลือกเม็ดที่มีสีเขียวเข้ม ถ้าเป็นทัวร์มาลีนสีชมพู ก็ต้องเป็นสีชมพเข้มเช่นกัน เพราะทัวร์มาลีนไม่ว่าจะสีใดก็ตาม ถ้ามีสีเข้มจึงจะนับว่ามีราคากว่าเม็ดที่มีสีอ่อนกว่า

ทัวร์มาลีนที่มีสีเข้มมักจะมีตำหนิภายในมาก แม้เม็ดนั้นจะเป็นทัวร์มาลีนที่มีคุณภาพดีอย่างไรก็ตาม ก็มักมีตำหนิให้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ควรพิจารณาเลือกซื้อเม็ดที่มีตำหนิไม่เด่นชัดมากนัก และต้องไม่ใช่ตำหนิที่มีสีแตกต่างจากสีของพลอย และปริมาณของตำหนิต้องไม่มากจนบดบังประกายของพลอยทำให้พลอยไม่ส่องแสงสวยงาม
เรื่องคุณภาพของการเจียระไน ต้องคัดเลือกเม็ดพลอยที่มีการเจียระไนที่ได้สัดส่วนที่ดี สวยงาม สมดุลย์ เหลี่ยมมุมคมชัด มีการขัดเงามันวาว

การดูแลรักษา

ควรทำความสะอาดทัวร์มาลีนด้วยน้ำอุ่นและแปรงขนนุ่ม หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เก็บรักษาในภาชนะที่บุด้วยผ้านุ่ม หลีกเลี่ยงการนำพลอยมาไว้รวมกัน เพื่อป้องกันการขีดข่วนทำให้เกิดรอย

ความเชื่อเกี่ยวกับทัวร์มาลีน ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ขจัดทัศนคติที่ไม่ดี เพิ่มกำลังใจ ขจัดความกลัว ความเศร้าโศกเสียใจ

อัญมณีแรกที่จะพูดถึงจะเป็น อเมทิสต์(Amethyst) หรือ อัญมณีประจำเดือนเกิดราศีกุมภ์ นั่นเอง

        อเมทิสต์(Amethyst) 

                อัญมณีสีม่วง เป็นพลอยในตระกูลควอทส์ ถูกกำหนดให้เป็นอัญมณีสำหรับผู้ที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์ คำว่า "อเมทิสต์" เป็นคำมาจากภาษากรีก ว่า Amathystos แปลว่า "ไม่มึนเมา"  บางคนเชื่อว่าอเมทิสต์จะนำโชคลาภมาสู่ผู้ครอบครอง ทำให้ผู้สวมใส่เกิดความมุ่งมั่น สามารถป้องกันเวทมนตร์ รวมทั้งยังรักษาโรคคิดถึงบ้านได้ บ้างก็เชื่อว่าอเมทิสต์ทำให้ผู้สวมใส่มีสมองปลอดโปร่ง มีไหวพริบปฏิภาณในการสู้รบ ทำให้มีความเป็นเลิศในทางการทำการค้าธุรกิจ

                ตามธรรมชาติมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนจนเกือบไร้สีจนถึงสีม่วงเข้ม เนื้อพลอยมีตั้งแต่ใสสะอาดจนถึงขุ่นทึบ อเมทิสต์ที่ถือว่ามีคุณภาพสวยต้องมีสีสดเข้ม เสมอทั้งเม็ด เนื้อใสสะอาดมองไม่เห็นตำหนิด้วยตาเปล่า เจียระไนรูปร่างสมส่วนมีประกายดี ซึ่งอเมทิสต์ คุณภาพดี สีเข้ม สวยสด เนื้อใสสะอาด ขนาดใหญ่หาได้ไม่ยากและยังมีปริมาณมาก
    แหล่งกำเนิดของอเมทิสต์ ที่มีคุณภาพสูงคือ บราซิล แหล่งอื่นเช่น อินเดีย นามิเบีย ศรีลังกา

ความเชื่อ/ตำนาน/ประโยชน์ด้านการบำบัด

           ปกป้องคุ้มครอง เปลี่ยนแปลงฮวยจุ้ย ยกระดับจิตใจ เพิ่มพูนการรับรู้ทางประสาทสัมผัส ขจัดความเครียด ก่อให้เกิดสมาธิ ช่วยให้ร่างกายและสมองผ่อนคลายอเมทิสต์เป็นหินที่ได้รับความนิยมและมีหลากหลายรูปทรง
          อเมทิสต์มีส่วนช่วยในการฟอกเลือด หรือสร้างเม็ดเลือดได้ ในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดเลือกต่าง ๆ จึงควรสวมใส่เครื่องประดับที่ทำด้วยหินชนิดนี้ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าหากมีผู้ป่วยกระทันหันเกิดขึ้นในบ้าน ให้นำอเมทิสต์ที่ล้างสะอาดมาแช่ในน้ำครู่หนึ่งแล้วกำหนดลงหายใจเหมือนการทำน้ำมนต์ด้วยพลังความเชื่อศรัทธาที่มีต่อหิน บวกกับคุณสมบัติด้านการบำบัดที่สูงของอเมทิสต์จะช่วยให้น้ำนั้นมีพลังในการรักษา เรียกว่า น้ำประจุพลัง นำน้ำนั้นมาดื่มจะช่วยให้อาการป่วยทุเลาลง นอกจากนี้หินยังช่วยขจัดความเครียด รักษาโรคนอนไม่หลับ หรือปลอบปลุกในคนที่ฝันร้าย ในยามโกรธหากกำหินชนิดนี้ไว้ในมือ จะสามารถสยบอารมณ์โกรธหรือสยบอารมณ์ร้าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถควบคุมอารมณ์ในคนเมา ให้คนเมาดื่มน้ำแช่หินชนิดนี้จะช่วยให้สร่างเมาเร็วขึ้น และไม่ค่อยมีอาการเมาค้าง
         ช่วยบำบัดในคนที่มี อารมณ์สับสนวุ่นวายและเกิดอาการฝันร้าย ใครที่หวาดกลัวนอนคนเดียว หรือฝันร้ายบ่อย ๆ กำหินชนิดนี้หรือวางไว้ใต้หมอนจะช่วยให้อาการหลับเป็นปกติดีขึ้น(อันนี้ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรง คือ เป็นคนฝันร้ายบ่อยมาก เลยนำมาใช้ ก็ได้ผลดีขึ้นนะครับ)
        ในคนที่มี อาการปวดศีรษะบ่อย ๆ ก็ควรนำอเมทิสต์มาวางไว้กลางหน้าผากขณะที่ปวดศีรษะจะช่วยให้คลายอาการนั้นลง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ดีในเรื่องการฝึกสมาธิ หรือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิญญาณ นำมากำไว้ขณะฝึกสมาธิจะยิ่งดีขึ้น

ข้อควรระวัง

        อเมทิสต์เป็นหินที่มีพลังอ่อนโยนในการปลุกปลอบใจ ไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมุ่งมั่นไปข้างหน้า เพราะคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองทะยานออกไปได้ไม่แรงพอ เนื่องจากหินจะคอยช่วยดึงรั้งเอาไว้ให้ทำแต่พอดี ๆ อย่าร้อยรวมกับลูกปัดหรือคั่นด้วยโลหะอื่น ๆ เพราะจะทำให้พลังของหินลดน้อยลง

วิธีการเลือกซื้อ

            การพิจารณาเลือกซื้ออเมทิสต์  ปัจจัยอันดับแรกคือ คุณภาพสี ที่ดีที่สุดจะต้องมีสีม่วงเข้มสด คุณภาพรองลงมาคือ สีม่วงปานกลาง ม่วงอ่อน และสุดท้ายคือ สีม่วงดำ และพิจารณาความสม่ำเสมอของสี ว่ามีสีทั่วทั้งเม็ดหรือไม่ วิธีการดูคือ ให้คีบพลอยคว่ำลงบนกระดาษขาวก็จะสามารถมองเห็นได้ว่า พลอยเม็ดนี้มีสีเป็นหย่อมๆหรือมีสีเสมอทั่วทั้งเม็ด
     ปัจจัยต่อมา คุณภาพความสะอาด อเมทิสต์ที่ม่ีคุณภาพเนื้อดีมากจะไม่พบเห็นตำหนิใดๆเลย แม้จะมองด้วยแว่นขยาย 10 เท่า อเมทิสต์ที่เนื้อดูขุ่นตันถือว่าคุณภาพต่ำสุด
     ปัจจัยความสมส่วนของรูปทรง ความประณีตในการเจียรเหลี่ยมมุมและการชักเงา ตลอดจนประกายแสง ซึ่งควรจะมีมากกว่า 50% ขึ้นไป

การดูแลรักษา  

อเมทิสต์ เป็นอัญมณีที่มีความแข็งแรง แต่สามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ จึงควรระมัดระวังในการทำความสะอาด ในการสวมใส่  ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงสารเคมี และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เก็บรักษาไว้ในภาชนะบุด้วยผ้านุ่ม

มารู้จักหินแร่กันดีกว่า (Let know about Gemstone)

           หลายๆคนคงเคยเห็นหินแร่ที่มีสีสันสวยงาม ในรูปเครื่องประดับต่างๆ เช่น แหวน(Rings) ,สร้อยคอ(Necklaces) ,กำไลข้อมือ/สร้อยข้อมือ(Bracelet/Bangle) ,ต่างหู(Earring) ,จี้(Pendant) เป็นต้น ซึ่งเราจะนำมาให้ท่านได้เลือกสรรในภายหลัง แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ถึงประโยชน์ หรือที่มา ของหินแร่เหล่านี้ วันนี้เราจะมาเริ่มต้น blog กันด้วยหินแร่เหล่านี้ โดยเนื้อหาที่พูดต่อ ก็จะประกอบไปด้วย

• ประวัติของหินแร่แต่ละชนิด
• ความเชื่อ/ตำนาน/ประโยชน์ด้านการบำบัด
• วิธีการเลือกซื้อ
• การดูแลรักษา

  

   หากใครมีข้อสงสัยหรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโพสถามได้นะครับ ^^